เผย2 สถานะล่าสุด ที่ได้รับเงินเยียวยาในวันที่ 12

ข่าวทั่วไป

จากกรณีเงินเยียวยา 5,000 บาท ให้กับพี่น้องประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ให้ลงทะเบียนใน www.เราไม่ทิ้งกัน . com เท่านั้น ล่าสุดมีความคืบหน้ามาตรการ 5,000 บาท ณ วันที่ 12 พ.ค. 63 จะมีการโอนอีกในวันอังคารนี้ 1.6 ล้านคน ผู้ผ่านเกณฑ์ รวมถึงกลุ่มที่ข้อมูลบัญชีไม่ถูกต้องและได้เปลี่ยนแปลงวิธีการรับเงินเป็นช่องทางพร้อมเพย์ที่ผูกกับบัตรประชาชนแล้ว

โดยในเพจสถานีข่าวกระทรวงการคลัง : Ministry of Finance News Station ได้เผยแพร่ข้อมูลจากนายลวรณ แสงสนิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง และโฆษกกระทรวงการคลัง ระบุว่า ” 1. มีผู้ผ่านเกณฑ์แล้ว 14.0 ล้านคน คาดว่าจะสามารถจ่ายเงินเยียวยาให้ได้ทั้งหมดภายในสัปดาห์นี้

2. วันอังคารที่ 12 พฤษภาคม 2563 จะมีการโอนเงินให้ผู้ผ่านเกณฑ์อีกประมาณ 1.6 ล้านคน ซึ่งรวมถึงกลุ่มที่ข้อมูลบัญชีไม่ถูกต้องและได้เปลี่ยนแปลงวิธีการรับเงินเป็นช่องทางพร้อมเพย์ที่ผูกกับบัตรประชาชนแล้ว3. การปิดทบทวนสิทธิเมื่อคืนเวลา 24.00 น. สรุปมีผู้ขอทบทวนสิทธิรวมทั้งสิ้น 6.5 ล้านคน

4. กลุ่มขอข้อมูลเพิ่มเติมมีผู้มาให้ข้อมูลเพิ่มเติมแล้ว 6.1 ล้านคน ยังขาดอีก 4 แสนคน5. กระทรวงการคลังคาดว่าภายในวันที่ 17 พฤษภาคม 2563 จะสามารถบริหารจัดการข้อมูลผู้ลงทะเบียนทั้งหมดให้แล้วเสร็จได้ในระดับ 98-99% โดยอาจมีกลุ่มที่ตกค้างบ้าง เช่น

กลุ่มที่ขอข้อมูลเพิ่มเติมแต่ยังไม่ได้เข้ามาให้ข้อมูลตามข้อ 4. และกลุ่มผู้ขอทบทวนสิทธิที่ผู้พิทักษ์สิทธิลงพื้นที่แล้วแต่ไม่พบตัวเนื่องจากปัจจุบันไม่ได้อยู่ตามที่อยู่ที่ได้แจ้งไว้ตอนขอทบทวนสิทธิ กรณีนี้จะส่งต่อข้อมูลให้ผู้พิทักษ์สิทธิในจังหวัดที่ท่านอยู่ในขณะนี้รับไปเป็นผู้ดูแลต่อไป

ซึ่งจะใช้เวลาในการดำเนินการเพิ่มขึ้นบ้างส่วนความคืบหน้าเรื่องมาตรการเยียวยากลุ่มเกษตรกร ขณะนี้กระทรวงการคลังได้ตรวจสอบความซ้ำซ้อนกับฐานข้อมูลการจ่ายเงินเยียวยาตามมาตรการเยียวยา 5,000 บาท และฐานข้อมูลข้าราชการและข้าราชการบำนาญตามที่กระทรวงเกษตรขอความอนุเคราะห์เรียบร้อยแล้ว

และได้ส่งข้อมูลให้กระทรวงเกษตรเร่งดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้การจ่ายเงินเยียวยาเกษตรกรเป็นไปตามกำหนดต่อไป ” ส่วนวันนี้นั้นคาดว่า กลุ่มสถานะที่ได้รับเงินมี 2 กลุ่ม คือสถานะสีเขียว และสถานะรอตรวจสอบข้อมูลการรับเงิน ส่วนสถานะนี้จะทำการโอนทุกวันอังคารของสัปดาห์ สถานะนี้หากได้รับเงินจะได้ทบยอดเป็น 10,000 บาท

ขอบคุณข้อมูล:สถานีข่าวกระทรวงการคลัง : Ministry of Finance News Station